รัฐบาลไทยกำลังดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ 10 ปีในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของเอเชีย และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Healthcare) ซึ่งสอดคล้องกับจุดเด่นของภาคอุตสาหกรรมไต้หวัน เพื่อช่วยสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและไต้หวันในด้าน Smart Healthcare การสัมมนา Thailand-Taiwan Smart Healthcare Seminar & Trade Meeting 2019 จัดขึ้นที่โรงแรมโซฟิเทล แบงค็อก สุขุมวิท

จัดโดย สำนักงานการค้าต่างประเทศ ไต้หวัน สภาพัฒนาการค้าภายนอกไต้หวัน (TAITRA) โดยร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย (THAIMED) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นจากบริษัทที่ได้รับรางวัลความเป็นเลิศจากไต้หวัน ผู้ร่วมงานกว่า 100 คนได้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ รวมถึง โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย โรงพยาบาลสิรินทร ภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด บริษัท นีโอฟาร์ม จำกัด เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ (N Health) เจดับบลิวที เฮลท์แคร์ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคอล จำกัด Worldmedic Information Technology ในส่วนของรัฐบาล ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย รังสีวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย  ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

มร.เจสัน ซู ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ได้นำเสนอความแข็งแรงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศน์ที่ได้ทำให้เกิดนวัตกรรมสุขภาพและการแพทย์ จริงๆ แล้ว ความสำเร็จของไต้หวันได้รับการกล่าวถึงในระดับนานาชาติ ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ เซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งใช้ในบริษัท อิลลูมิน ซึ่งเป็นบริษัทด้าน genetic sequencing ที่ใหญ่ที่สุด และแผงวงจรของอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้โดยทั้ง GE และซีเมนส์ องค์กรสำคัญ อาทิ World Physician Conference และ American Medical Association ได้มาเยือนไต้หวัน กล่าวโดยสรุปคือ หลากหลายประเทศได้ให้การยอมรับเทคโนโลยี และเห็นความเป็นไปได้ในทางธุรกิจของอุตสาหกรรมสุขภาพของไต้หวัน         

นางช่าวฮุย หลิน รองผู้อำนวยการบริหาร สภาพัฒนาการค้าภายนอก ไต้หวัน  (TAITRA) ให้ข้อมูลว่า บริษัทไต้หวันที่มาร่วมงานในวันนี้ ได้นำเสนอจุดเด่นของอุตสาหกรรมไต้หวัน เพราะว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการเลือกผ่านกระบวนการที่เข้มข้น รางวัล Taiwan Excellence Award ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการจากกระทรวงเศรษฐกิจ ไต้หวัน ในปี 1993 โดยมีคณะกรรมการกว่า 100 คนในการประเมินผลิตภัณฑ์ทั้งด้านวิจัยและพัฒนา การออกแบบ คุณภาพ การตลาด โดยจัดขึ้นทุกปี มีเฉพาะผลิตภัณฑ์ชั้นนำเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะได้รับรางวัล Taiwan Excellence ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลสามารถใช้โลโก้ Taiwan Excellence ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคและผู้ซื้อสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น เช่นเดียวกับที่ผู้บริโภคเลือกร้านอาหารที่ดีทีสุดจาก MICHELIN STAR ซึ่งรางวัลทั้งสองมีความคล้ายกัน ผู้ชนะรางวัลได้รับคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญใน 5 ด้าน ดังนั้น ความไว้วางใจ การเป็นที่รู้จักในระดับโลก และการได้รับการชื่นชอบจากผู้บริโภค และการมีภาพลักษณ์ที่ดี

ทั้งนี้ บริษัททั้งหกของไต้หวันที่มาร่วมงานได้แก่ HIWIN TECHNOLOGIES CORP, Advantech Co. Ltd., IEI Integration Corp., Mediland Enterprise Corporation, Imediplus Inc. และFaspro Systems Co. Ltd.,

มร.ไซรัส ตง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป HIWIN TECHNOLOGIES CORP ได้นำเสนอหัวข้อ การผ่าตัดด้วยกล้องส่องระบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ โดยแนะนำที่วางกล้องส่องที่จะช่วยการผ่าตัดด้วยกล้องส่อองมีประสิทธิภาพ เพราะได้ภาพที่นิ่ง ลดอาการวิงเวียน และอาการเหนื่อยล้าทางสายตา รวมถึงแท่นถีบที่ง่ายต่อการใช้งาน

นายวัชรพงศ์ ซื่อกำเนิด ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย ธุรกิจ Intelligent Healthcare บริษัท Advantech Corporation (Thailand) จำกัด นำเสนอหัวข้อ การบริหารโรงพยาบาลอัจฉริยะ โดยกล่าวว่า ระบบบริหารโรงพยาบาลอัจฉริยะของ Advantech ประกอบด้วยสามส่วน ได้แก่ ห้องผ่าตัดครบวงจร การพยาบาลคุณภาพ และบริการด้านคลินิกและผู้ป่วย ผลิตภัณฑ์ภายใต้ระบบบริหารโรงพยาบาลอัจฉริยะของ Advantech ได้แก่ POC-W212 คอมพิวเตอร์ทางการแพทย์ ซึ่งใช้โดยโรงพยาบาล Royal Perth Hospital โดยติดตั้งข้างเตียงเพื่อการมอนิเตอร์สัญญาณชีพของผู้ป่วยเพื่อข้อมูลทางคลินิก พร้อมหน้าจอสัมผัส โดยโรงพยาบาล Royal Perth Hospital ไม่เพียงแต่จะลดการใช้กระดาษได้ ยังลดการใช้การปรับสายต่างๆ อีกด้วย

มร.เดวิด ฮัง  Supervisor, IEI Integration Corp นำเสนอหัวข้อ IEI Smart Healthcare- Nursing Solution เขาได้กล่าวว่าในอดีต รถเข็นพยาบาลหนัก และประกอบด้วยหน้าจอขนาดเล็ก และมีสายเคเบิลที่ยุ่งเหยิง แต่รถเข็นทางการแพทย์ระบบคอมพิวเตอร์  (POCm-W22C-ULT3, POC-W22A-H81) สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยเพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดเงิน (ราคาเฉลี่ยของแบตเตอรี่รถเข็นพยาบาลอยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐ โดยรวมค่าบริการแล้ แต่แบตเตอรี่ลิเธียม IEI สามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 400 เหรียญสหรัฐ).ตามการวิจัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในไต้หวัน เจ้าหน้าที่พยาบาลหนึ่งคนต้องเดิน 6.8 กิโลเมตรต่อวัน แต่ด้วยแผงดิจิตอลข้างเตียง Bedside Digital Headboard (IOVU-10F-AD-R10), และ Smart IV Drips Solution เจ้าหน้าที่พยาบาลสามารถมอนิเตอร์ข้อมูลผู้ป่วยผ่านอุปกรณ์เหล่านี้

มร.เรย์ หยาง ตัวแทนขายประจำภูมิภาค Mediland Enterprise Corporation นำเสนอหัวข้อ “ระบบฆ่าเชื้อโรคที่ทันสมัย UVC Disinfection System_ Hyper Light “. โดยกล่าวว่าหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรค Hyper Light Disinfection Robot ได้รับการติดตั้งคลื่นแสง UV-C ความยาวคลื่น 254 nm, ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ใน DNA และ RNA, โดยสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผลิตภัณฑ์ได้รับการติดตั้งโคมไฟ Amalgam Lamp ซึ่งดีกว่าโคมไฟ mercury lamp เพราะปราศจากโอโซน (<0.035ppm), มีอายุการใช้งาน 12,000 ชั่วโมง (ปกติโคมไฟ mercury lamp มีอายุการใช้งาน 4,000 – 8,000 ชั่วโมง) และพลังงานความเข้มข้นของ UV-C ที่มากกว่า mercury lamp ในอุณหภูมิสูง ผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานผ่านแทบเล็ต ซอฟต์แวร์มอบความง่ายและตอบสนองรวดเร็วเพื่อให้กระบวนการฆ่าเชื้อโรค และบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ

ดร.คูณซี ไฉ่ ผู้จัดการทั่วไป, IMEDIPLUS Inc. (แบรนด์ Cardiart) นำเสนอหัวข้อ “Technology Medicalization – กุญแจสู่ Smart Medicine แห่งอนาคต”. หูฟังอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้การบันทึกเสียงได้ละเอียดขึ้น การกรองเสียงและการเลือกความถี่ และการเน้นฟังเสียงทางพยาธิวิทยา และการขยายเสียงเพื่อให้ได้ยินเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปได้ชัดขึ้น.  นอกจากนี้ การบันทำภาพเสียงหัวใจจะช่วยให้บ่งชี้เสียงหัวใจได้ดีขึ้น รวมถึงการบันทึกการฟังเพื่อตรวจโรค ซึ่งจะช่วยในการให้คำปรึกษาและการสอนได้  

มร. อดัม ฮวง, รองประธาน,  Faspro Systems Co., Ltd. นำเสนอหัวข้อ “Medical Digitalization & Telemedical Application”. โดยนำเสนอกล้องไร้สายเพื่อการแพทย์แบบสวมหัว ซึ่งสามารถใช้กับทันตกรรม ความงาม การผ่าตัด สัตวศาสตร์ รวมถึงบันทึกกระบวนกการทางการแพทย์ของคนไข้ พร้อมด้วยวิดีโอ และเสียง ซึ่งสามารถแบ่งปันได้แบบทันที เพื่อการศึกษาทางไกล โดยสามารถใช้ Medical Digitalization และ Telemedicine. ผลิตภัณฑ์มีน้ำหนักเบาเพียง 130 กรัม โฟกัสอัตโนมัติ (5cm ~ Infinity), และสามารถกำหนดพื้นที่การมองระยะแคบได้):10˚, 19˚, 28˚ หรือ 38˚, ซึ่งสะดวกกับผู้ใช้งาน  หลังจากบริษัทต่างๆ ได้นำเสนอ การจับคู่ทางธรุกิจกว่า 40 คู่ได้เกิดขึ้น ระหว่างบริษัทจากไต้หวัน และโรงพยาบาลในไทย ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสอดคล้องกับความต้องการของไทยและไต้หวัน ดังนั้น ทาง TAITRA จะจัดชึ้นอีกครั้งในปีหน้า