กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : ชุมชนเข้มแข็ง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์ องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม โดยการประสานและบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ในการนำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปขยายผล ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และชุมชน เพื่อการพัฒนา/แก้ไขปัญหา พัฒนาอาชีพ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ณ สวนรื่นฤดี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พลเอก ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พลโทธเนศ กาลพฤกษ์ รองเลขาธิการ กอ.รมน. พลโทกนก ภู่ม่วง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กอ.รมน. พลโทกิตติธัช บุพศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. พลโทอรรถพร เป้าประจักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. พลโทเรืองสิทธิ์ มิตรภานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. พลโทวาสิฎฐ์ มณีโชติ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กอ.รมน. และดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมลงนาม
ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มีหน้าที่ในการให้ทุนวิจัยและนวัตกรรม การจัดทำฐานข้อมูลและดัชนีด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ การริเริ่มขับเคลื่อนและประสานการดำเนินงานโครงการวิจัยและนวัตกรรมที่สำคัญของประเทศ การจัดทำมาตรฐานและจริยธรรมการวิจัย การส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม และการให้รางวัล ประกาศเกียรติคุณหรือยกย่องบุคคล หรือหน่วยงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และโดยที่ กอ.รมน. เป็นหน่วยงานความมั่นคงที่มีภารกิจและหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และดูแลประสานงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงเพื่อประโยชน์ของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ
กอ.รมน. และ วช. จึงเห็นพ้องต้องกันในอันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ให้ชุมชนเข้มแข็ง และเป็นการสานต่อตามแนวพระราชดำริ ในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา ร่วมกับองค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม เป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้ประโยชน์องค์ความรู้ จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : ชุมชนเข้มแข็ง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม ในครั้งนี้ โดยผ่านกลไกการดำเนินงานของศูนย์ประสานการปฎิบัติของ กอ.รมน. มีเป้าหมายในการดำเนินงานร่วมกัน 3 ปี