สำหรับการจัดเสวนา Thailand Digital Assets Forum ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักข่าวภาษาจีนไทยแลนด์เฮดไลน์ (Thailand Headlines) และนิตยสารภาษาจีนแอทม่านกู่ (@ManGu) จับมือกับ กลต. และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่นักลงทุนต่างชาติ ผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่างชาติ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ รวมไปถึง การประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลก โดยเฉพาะประเทศจีนได้รับรู้ความคืบหน้าเกี่ยวกับ กำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น สำนักข่าวภาษาจีนไทยแลนด์เฮดไลน์ (Thailand Headlines), นิตยสารภาษาจีนแอทม่านกู่ (@ManGu) สื่อภาษาจีนที่มีอิทธิพลด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในประเทศไทย และสื่อจากประเทศจีนหลายสำนัก จะนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ไปเผยแพร่สู่ประเทศจีน ต่อไป
เนื่องด้วยสำนักข่าวภาษาจีนไทยแลนด์เฮดไลน์ (Thailand Headlines) และนิตยสารภาษาจีนแอทม่านกู่ (@ManGu) เป็นสื่อภาษาจีนที่มีอิทธิพลด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในประเทศไทยไปยังชาวจีนทั่วโลก และมีสื่อจากประเทศจีนหลายสำนักได้ติดต่อมาเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารด้านการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยที่ถูกต้อง จึงได้มีการร่วมมือกับ กลต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีความรู้ประสบการณ์ด้านกฏหมายและธุรกิจการเงิน จัดงานเสวนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่นักลงทุนต่างชาติ ผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่างชาติ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ
ประกอบด้วย พล.อ.ท.บรรจง คลายนสูตร์ ผู้แทนพิเศษของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตรอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คุณรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต , คุณอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม กรรมการกฤษฎีกา อดีดปลัดกระทรวงการคลัง , คุณพราวพร เสนาณรงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต สายนโยบายตลาดทุน คุณ เกาจื๋อหลง อุปนายกสมาคม International Blockchain and Cryptocurrency Association พิธีกรเสวนารับเชิญ ได้แก่ คุณหลุ่ย แซ่กั๊ว(คุณจีจี้) ประธานบรรณษธิการใหญ่สำนักข่าวภาษาจีนไทยแลนด์เฮดไลน์ (Thailand Headlines) และนิตยสารภาษาจีนแอทม่านกู่ (@ManGu) และ คุณวิเชฐ ตันติวานิช ประธานสถาบันC-Asean, กรรมการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, กรรมการการนิคมฯ แห่งชาติ ส่วนสำนักตำรวจแห่งชาติก็มีพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผช.ผบตร. เป็นตัวแทน มาร่วมรับฟังและทำควาความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับพรก.และหลักเกณฑ์ฯดังกล่าว
ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ “เงินดิจิตอล” ในรูปแบบ Crypto currency โดยเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ใช้แทนเงินสด และเกิดสกุลเงินต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ คริปโท (Crypto), โทเคน (Token) ซึ่งเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องดำเนินการผ่านกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความซับซ้อน ในขณะที่การประกอบธุรกิจ มีความต้องการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสกุลเงินดิจิตอล และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นักลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ยังไม่มีความรู้มากนักและที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ประเทศไทยได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ พรก. เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ และมีการประกาศใช้ข้อบังคับและหลักเกณฑ์ต่างๆเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ที่ผ่านมา และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. เป็นผู้กำกับดูแลนั้น จึงนับว่าเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการออกกฏหมายควบคุมธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและแนวทางการประกอบธุรกิจนี้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย จึงทำให้ประเทศไทยได้กลายเป็นจุดสนใจของนักธุรกิจ นักลงทุนในวงการเทคโนโลยี่ด้านการเงิน หรือ ฟินเทค จากนานาประเทศทั่วเอเชีย ซึ่งในนั้นมีนักลงทุนเชื้อสายจีนจำนวนมาก ประเทศไทยถูกยกย่องเป็นประเทศระดับแนวหน้าที่มีความทันสมัยด้านพัฒนาเทคโนโลยี่ฟินเทค และเป็นประเทศที่เหมาะกับการลงทุน
เนื้อหาในการเสวนา Thailand Digital Assets Forum ได้กล่าวถึง ครม. อนุมัติพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ พ.ร.ก. และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ประกาศใช้ จึงนับว่า ประเทศไทย คือประเทศแรกของเอเชีย ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถูกต้อง ส่งผลให้ นักลงทุนต่างๆ จากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก และติดตามข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงมีความจำเป็นต้อง ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และกฏระเบียบ ในการกำกับดูแลทรัพย์สินดิจิตอลที่ถูกหลัก รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านกฏหมาย ข้อบังคับ การบริหารจัดการ การดำเนินงานต่างๆ รวมไปถึงกฏหมายการคุ้มครองด้านการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และคุ้มครองผู้บริโภคผู้ลงทุน อันจะเป็นการขจัดปัญหาเรื่องความสับสน ไม่เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินส่วนบุคคล และส่งผลดีต่อความเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในที่สุด