การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ จังหวัดตราด จัดงาน LOW CARBON MARKET @ THE EAST “เสน่ห์ศิลป์ ถิ่นตราด” ชวนนักท่องเที่ยวแต่งไทย ใช้ถุงผ้า ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมรับน้ำมนต์เสริม
สิริมงคล จาก 3 วัดดังแห่งเมืองตราด 21-23 กรกฎาคม นี้ณ วัดบุปผาราม ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด จังหวัดตราด
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อสร้างการรับรู้พื้นที่ภาคตะวันออกให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเป็นการขับเคลื่อน
นโยบาย Sustainable Tourism Goals (STGs) การจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมกับจังหวัดตราด จัดกิจกรรมตลาดย้อนยุค LOW CARBON MARKET @ THE EAST “เสน่ห์ศิลป์
ถิ่นตราด” ระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2566 ณ วัดบุปผาราม ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยวแบบมีจิตสำนึก ใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงยัง
เป็นการส่งเสริมและกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ต้องการกระจายรายได้ในรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้คัดเลือกพื้นที่จังหวัดตราด เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะ“วัดบุปผาราม” แห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของ ททท. ที่ต้องการเชื่อมโยง
เรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าขาน นำมาร้อยเรียงกับการท่องเที่ยวสไตล์ Low Carbon ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างประสบการท่องเที่ยวผ่านมุมมองของศิลปวัฒนธรรม ชุมชน การแสดง
ท้องถิ่นในจังหวัด ผ่านการจัดกิจกรรมชวนแต่งไทย สัมผัสบรรยากาศตลาดย้อนยุครัก(ษ์) โลก พร้อมชมความงามของสถาปัตยกรรมและโบราณสถานผ่านแสงสีเสียง โดยภายในงานได้เนรมิตบรรยากาศให้สวยงาม อบอวลไปด้วย
กลิ่นดอกไม้หอม ตกแต่งเป็นสวนแสงประดับไฟ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ ประกอบไปด้วย 4 โซนหลัก ได้แก่ 1. โซนเวทีการแสดงและกิจกรรม ชมการแสดงพื้นบ้านของจังหวัดตราด และภาคตะวันออก ชม
คอนเสิร์ตจากศิลปิน “เพลงเอกเสียงนี้ที่คิดถึง” 2. โซนจำหน่ายสินค้า ทั้งอาหาร และผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีเมืองตราด 3. โซนกิจกรรมการแสดงแสงสีเสียง ถ่ายทอดผ่านเทคนิคต่าง ๆ โดยมีไฮไลท์ คือ “จุดรับพลังแห่งจักรวาล”
ที่จำลองมาจากวิหารพระนอน พร้อมรับน้ำมนต์เสริมสิริมงคล จาก 3 วัดดังแห่งเมืองตราด รวมถึงมีการนำชมเรื่องราวอันน่าสนใจ ผ่านปราชญ์ท้องถิ่น และมัคคุเทศก์น้อย 4. โซนออกบูธสาธิตกิจกรรมรักษ์โลก
นายอัครวิชย์ กล่าวต่อว่า ภายในงานมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมงานแต่งชุดไทย ใช้ถุงผ้า ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม งดใช้โฟม และพลาสติก มีการนำพลังงานสะอาด อย่างโซลาร์เซลล์ มาใช้
ทดแทนการใช้ไฟฟ้า มีการคัดแยกและการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ซึ่งขยะในงานบางส่วนจะถูกนำไปทำปุ๋ยและบางส่วนจะถูกนำไปใช้ซ้ำ รีไซเคิล หรือชุบชีวิตให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้สนใจ
เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 2,000 คนและก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ในจังหวัดประมาณ 10 ล้านบาท รวมถึงสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 1,000,000 คน” และคาดการณ์ว่า
จะมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เท่ากับ 22.72 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ททท.เลือกจังหวัดตราดเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมในครั้งนี้ซึ่งตราดเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย มีทรัพยากร
ทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีกิจกรรมการท่องเที่ยวตามความสนใจประเภทต่างๆ ตลอดจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จังหวัดตราดเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในเรื่องเสน่ห์แห่งทะเลตะวันออกที่เต็มไปด้วยเกาะที่สวยงามมากมาย โดยเฉพาะเกาะหมากซึ่งเป็น Low-carbon Destination แห่งแรกในเมืองไทย ที่มีรูปแบบการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัลอันดับ 2 ของโลก “2023 GREEN DESTINATIONS STORY AWARDS” ด้านการจัดการและการฟื้นฟู ในงานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ITB Berlin 2023 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นในเสน่ห์ของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะความศักดิ์สิทธิ์ของ “วัดบุปผาราม” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดปลายคลอง” ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง ที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดตราด มีสมญานามว่า “อารามแห่งดอกไม้” มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ด้านความเชื่อ และโดดเด่นด้วยจิตรกรรมฝาผนังเขียนสี ที่ผสมผสานแบบไทยและแบบจีน ซึ่งจะช่วยสร้างกระแสการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เพิ่มมากขึ้นได้ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าชาวตราดในฐานะเจ้าบ้าน จะได้ร่วมกันดูแลนักท่องเที่ยว ให้เกิดความประทับใจด้วยไมตรีจิตอันดี ผมจึงขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมงาน“เสน่ห์ศิลป์ ถิ่นตราด” ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางพร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกการท่องเที่ยวและสร้าง ประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกที่ผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม เข้าด้วยกัน และก่อให้เกิดรายได้ในจังหวัดตราด รวมถึงจังหวัดในภาคตะวันออกเพิ่มมากขึ้นผ่านการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมชมงาน “เสน่ห์ศิลป์ ถิ่นตราด”สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1672 และ Facebook : ททท.สำนักงานตราด : TAT Trat Office – www.facebook.com/tattratoffice