ททท.ภูมิภาคตะวันออกพร้อมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก ณ เกาะหมาก จังหวัดตราด
จากนโยบายรัฐบาล ที่ประกาศการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ. 2564-2569 โดยใช้จุดเด่นและศักยภาพของประเทศไทยในเรื่องของการเกษตร สาธารณสุข การท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออก และสำนักผู้ว่าการ กองบริหารความยั่งยืน ร่วมกับ จังหวัดตราด องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเขต 9 (ระยอง จันทบุรี ตราด) กำหนดจัดกิจกรรมแถลงข่าวเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก ประกอบไปด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ในวันที่ 10 มกราคม 2566 ณ เกาะหมาก จังหวัดตราด โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของภาคตะวันออก ภายในงานได้รับเกียรติการขึ้นแถลงข่าวจากนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายอนุชา เทียนชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภาค ๙ นายนล สุวัจนานนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก
นายอัครวิชย์ เทพาสิต (ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) กล่าวว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ยังคงความสวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ที่สำคัญคือเดินทางสะดวกสามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว และใช้เวลาในการเดินทางไม่นานจากกรุงเทพมหานคร อีกทั้งการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการสร้างการรับรู้การเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นต้นแบบของการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราด ได้มีนโยบายในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด “ท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่า เมืองน่าอยู่ เศรษฐกิจเติบโต เกษตรปลอดภัย สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” ทางการเกษตร ประมง และการบริการและการท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตราดก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ การจัดกิจกรรมในวันนี้ของ ททท. มีความสอดคล้องกับในยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดตราด ที่มุ่งในเรื่องเมืองท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จังหวัดพร้อมด้วยภาครัฐและเอกชน ได้ช่วยผลักดันรณรงค์ บ้านสะอาด เมืองตราดสวยสงาด มีคุณภาพคุณธรรม และยินดีเป็นอย่างมากที่ ททท. ได้มาจัดกิจกรรมแถลงข่าวที่เกาะหมาก เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ และการได้รับรางวัลติดอันดับ Top 100 green destination ประจำปี 2565 จัดอันดับโดย www.greenfestinations.org และเกาะหมากนับเป็นที่แรกของประเทศไทยที่เป็น Low Carbon destination โดยการจัดอันดับนี้มีเกณฑ์จาก Good practice stories, governance, and reset and recovery การจัดอันดับนี้ แสดงถึงพลังความร่วมแรงร่วมใจจาก อพท. ชุมชน ในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องผนึกกำลังกันในการดูแลรักษาให้ยังคงเป็นเกาะหมาก Low Carbon Destination อย่างยั่งยืนต่อไป
นายอนุชา เทียนชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 9 กล่าวว่า ในฐานะประธาน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 9 พื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด ในแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่งนี้ ล้วนมีอัตลักษณ์ที่และความสวยงาม มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ การมีจุดมุ่งหมายที่จะ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเหล่านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริม โดย ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้วางพันธกิจ Mission เพื่อเป็นการบอกถึงจุดประสงค์หรือภารกิจที่จะเริ่มทำ โดยจะเชิญชวนร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร สถานประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงนักท่องเที่ยว ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจชุมชน ที่ดีขึ้นอย่างยั่นยืน ภายใต้ คอนเซ็ปต์ Eastern Thailand the Destination for Sustainable Tourism การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อการผลักดันให้ “เกาะหมาก” ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ยกระดับขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม หรือ Low Carbon Destination ด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนจากกิจกรรมภาคการท่องเที่ยวให้น้อยกว่าแหล่งท่องเที่ยวโดยทั่วไป และยกระดับให้เกาะหมากเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ Circular Economy ให้กับพื้นที่อื่น ๆ ในภาคตะวันออก ที่สำคัญการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออกจะมุ่งไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ในทุกครั้งที่ออกเดินทางท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะต้องรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายแหล่งท่องเที่ยว ไม่เพิ่มขยะในทุกพื้นที่ที่เดินทางท่องเที่ยว และเจ้าบ้านเอง ไม่ว่าจะเป็นคนในชุมชน ผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ร่วมมือกันทำพื้นที่ของตนเองให้มีความสะอาด น่าอยู่ น่าเที่ยว ใช้ทรัพยากรที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า และมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องตระหนัก
โดยการจัดกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวฯ ในครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมร่วมกับกรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ชุมชน มาให้ความรู้ถึงวิธีการดูแลรักษาต้นไม้ ร่วมกันเก็บขยะ นำขยะไปจัดเก็บอย่างถูกวิธี การสร้างชิ้นงานขยะจากทะเลเพิ่มมูลค่า และปลูกปะการัง เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ ททท. ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว โดยวันนี้ ททท.ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท THAI TAFFETA.CO.,LTD มอบเสื้อชูชีพ บริษัท มาเซียโน่ จำกัด มอบรองเท้ายางแก่ชุมชนเกาะหมาก บริษัท เมธิคิวลัส จำกัด มอบเสื้อยืด ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นำมามอบทั้งหมดในครั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากการ Recycle ในปี 2566 ซึ่งเป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยว (Visit Thailand Year) ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออก คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก จำนวน 16 ล้านคน/ครั้ง และรายได้ทางการท่องเที่ยวจำนวน 109,328 ล้านบาท โดย ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออกได้ออกแคมเปญกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว ในประเทศตัดสินใจออกเดินทางไปท่องเที่ยวภาคตะวันออก อาทิ โครงการ 365 มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน สบ๊าย สบาย สายกิน “เที่ยวไป กินไป สบายพุง” สร้างประสบการณ์การกินผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวแบบสบ๊าย สบาย สายกิน เที่ยวไป กินไป สบายพุง ด้วยเมนูคาว หวาน แบบฉบับภาคตะวันออก ที่มีคอนเซ็ปต์เมนูที่รังสรรจากวัตถุดิบหลัก 3 ประเภท ได้แก่ Seafood สมุนไพรป่า และผลไม้ จากแหล่งผลิตวัตถุดิบ นำมาประกอบกันเป็นเมนูสุดพิเศษ จากชุมชนท้องถิ่น ชาวสวนผลไม้ และเชฟมืออาชีพ ร่วมกันสร้างประสบการณ์การกินด้วยเรื่องราวของ Gastronomy Tourism ในรูปแบบ Live Seller โดย Chef ฝีมือคุณภาพ เชื่อมโยงสู่การส่งเสริมการขายอาหารและผลไม้ในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถสะสม Reward card “เที่ยวไป กินไป สบายพุง” เมื่อซื้ออาหารทะเลอาหารชุมชน อาหารสมุนไพร และผลไม้ภาคตะวันออก รับส่วนลดค่าที่พัก และบัตรเติมน้ำมัน สำหรับการเดินทางเข้าพื้นที่ครั้งต่อไป โครงการ Workation วันธรรมดา ททท. เล็งเห็นโอกาสภายหลังจากวิกฤติโรคระบาด (โควิด-19) ที่ทำให้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนและนักท่องเที่ยวในปัจจุบันสามารถเดินทางท่องเที่ยวและทำงานไปพร้อมๆกัน กระแส Work From Anywhere จึงได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมุ่งส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ และสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ Workation “ทำงานง่าย ได้สุขภาพ” นำเสนอเส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยววันธรรมดา Happy Workplace + Responsible Tourism + Wellness (ที่พัก + กิจกรรม ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness หรือ CSR/RT การออกกำลังกาย อาหารเพื่อสุขภาพ) สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบรักษ์สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ผ่อนคลายจากการทำงาน เรียนรู้ Trick สร้างสุขภาพ นอกจากนี้ ภาคตะวันออกยังมีโปรโมชั่นที่กระตุ้นและสร้างกระแสให้ออกเดินทางท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ตลอดปี 2566 สามารถอ่านข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Facebook วันธรรมดาน่าเที่ยว Facebook เที่ยวตะวันออก และ Facebook ของสำนักงาน ททท. ในภาคตะวันออกทั้ง 6 สำนักงาน