นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังการกลับมาของธุรกิจจากการปิด ล็อกดาวน์ ประเทศไทยถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นและสนใจที่จะย้ายฐานการผลิตมาในไทยมากขึ้นในหลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตที่มีศักยภาพ เช่น สินค้าอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ อย่างอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค อาทิ หน้ากากอนามัย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ ที่ความต้องการสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ยังมีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเนื่องจากประชาชนได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้สินค้าฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารที่ได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิต ส่งผลให้มีการขยายการผลิตในหลายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ดังนั้นผู้ประกอบการควรใช้ความได้เปรียบในขณะนี้มาปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต โดยกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและขจัดอุปสรรคให้กับผู้ประกอบการเพื่อเป็นหนึ่งในกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าฝ่าวิกฤตและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสพัฒนาได้
“เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการหลายมาตรการ อาทิ การยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ การชดเชยค่าตรวจประเมินและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการในเขตนิคมอุตสาหกรรม การยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ตลอดจนอำนวยความสะดวกตามแนวทางการผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเข้าไปอบรมให้ความรู้ ยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น การขยายตลาดเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของออฟไลน์ และออนไลน์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่าง ๆ โดยอุตสาหกรรมไทยนับจากนี้จะต้องมีการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามแบบชีวิตวิถีใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด โดยหันมาใช้แพลตฟอร์ม หรือหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ นวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น จากเดิมคาดกันว่าระบบอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทอีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่เมื่อมีโควิด-19 เป็นตัวเร่งทำให้ระบบอัตโนมัติเข้ามามีบทบาทเร็วขึ้น ซึ่งหากผู้ประกอบการใดมีการปรับตัวก่อนก็จะได้รับประโยชน์ก่อนคู่แข่งในตลาด” นายภานุวัฒน์กล่าว
ซึ่ง งาน Intermach 2020 งานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลและนวัตกรรมขั้นสูง งานแสดงเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่รวมโซลูชันอัจฉริยะ ตอบสนองความต้องการในยุคแห่งการผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทรงประสิทธิภาพ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 กันยายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ถือเป็นงานแรกของปีนี้ที่ผู้ประกอบการในทุกภาคอุตสาหกรรมควรได้ไปเรียนรู้ อัพเดทนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม เปิดโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงจับคู่ธุรกิจเพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในอนาคตที่พร้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นายภานุวัฒน์กล่าวเสริม
ด้าน นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้นำธุรกิจด้านจัดงานแสดงสินค้าอันดับหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า การจัดงาน Intermach 2020ปีนี้ เป็นการร่วมมือกับ พันธมิตรรายใหญ่จากภาครัฐ-เอกชนมากที่สุดอีกปีหนึ่งและถือเป็นงานสำหรับภาคอุตสาหกรรมงานแรกของปีที่รวบรวมทั้งอุปกรณ์เพื่อการผลิตในอุตสาหกรรมโลหะการจากบริษัทผู้ผลิตระดับแนวหน้าของโลกครอบคลุมอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ แม่พิมพ์อุตสาหกรรม อุปกรณ์การแพทย์ การผลิตเฟอร์นิเจอร์ การเกษตรและอีกมากมาย โดยในปีนี้งาน Intermach 2020ได้จัดขึ้นภายใต้ธีมงาน “ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ” ครบวงจรด้วย 1,000 แบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำปฏิวัติสู่ยุคเครื่องจักรอัจฉริยะ และโซน iAR งานแสดงเทคโนโลยีชั้นนำของอาเซียนด้านเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ โดยอีกหนึ่งความน่าสนใจคือ การสัมมนาให้ความรู้ด้านอุตสาหกรรม กับ อินเตอร์แมค ฟอรั่ม ครั้งที่ 4 และการสัมมนาในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ “SMEs Transformation to Smart Manufacturers” สัมมนายานยนต์อนาคต และสัมมนาอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ได้เพิ่มทักษะความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อการเติบโตสู่อนาคตอย่างแท้จริง
งาน Intermach 2020จัดขึ้นร่วมกับงาน Subcon Thailand 2020 และงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2020 (ASE2020) จะจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของงานได้ที่ www.intermachshow.com